ท่องเที่ยว จังหวัดจันทบุรี ย้อนรอยเหตุการณ์ รศ.112

รายละเอียดโปรแกรมทัวร์

วันที่ 1
  • เดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ด้วยรสบัส ใช้เวลาประมาณ14ชั่วโมง หรือ เดินทางโดยเครื่องบิน ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมงถึงสนามบินสุวรรณภูมิ
  • จากนั้นเดินทางไปยังจุดชมวิวเนินนางพญา จุดชมวิวที่สวยที่สุดของจันทบุรี มองเห็นวิวสวยงามรอบๆ ทั้งวิวทะเล ภูเขา และถนนที่เป็นโค้งสวยงาม
  • เดินทางต่อไปยังเดินทางต่อไปยังจุดชมวิวเจดีย์กลางน้ำ บ้านหัวแหลมซึ่งอยู่ห่างจากจุดชมวิวเนินนางพญา เพียง 1 กิโลเมตรเท่านั้น  แวะเดินชมวิวสวยๆ บนสะพานไม้ที่ทอดตัวยาวท่ามกลางน้ำทะเล ระยะทางประมาณ 50 เมตร เป็นสะพานที่สร้างขึ้นจากพลังแห่งศรัทธาของชาวบ้าน เป็นทางเดินเพื่อสักการะ “เจดีย์บ้านหัวแหลม”เป็นเจดีย์ที่มีอายุกว่า 200 ปี เชื่อกันว่าสร้างไว้เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวประมง
  • มุ่งหน้าไปยังหาดเจ้าหลาว เข้าที่พัก  เล่นน้ำทะเล และพักผ่อนตามอัธยาศัย หาดเจ้าหลาว  เป็นชายหาดที่สวยที่สุดในจันทบุรี อยู่ห่างจากอำเภอท่าใหม่ 19 กิโลเมตร ถัดมาจากหาดแหลมเสด็จ มีบรรยากาศเงียบสงบ เป็นหาดทรายสีเหลืองละเอียด ชายหาดยาวเกือบ 10 กิโลเมตร น้ำทะเลใสสะอาด คลื่นไม่แรง ร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าว   เข้าที่พัก  เล่นน้ำทะเล และพักผ่อนตามอัธยาศัย

 

วันที่ 2
  • รับประทานอาหารเช้า ที่โรงแรม ก่อนออกเดินทาง
  • ระหว่างทางแวะที่วัดปากน้ำแขมหนู อ.ท่าใหม่ ชมความสวยงามของ โบสถ์เซรามิกสีน้ำเงิน โดดเด่นวิจิตรตระการตา และป็นเอคุกขี้ไก่ ชาวบ้านเรียกว่าป้อมฝรั่งเศส ต่อมาใช้เป็น ที่กักขัง นักโทษทั้งทหารญวนคนจีนคนในบังคับของฝรั่งเศสรวมทั้งคนไทยที่ต่อต้านฝรั่งเศส  โดยขังคนไว้ด้านล่าง  ด้านบนเลี้ยงไก่เพื่อให้ถ่ายมูลใส่นักโทษ
  • ใกล้กับคุกขี้ไก่  เดินเที่ยวชมตึกแดง และเรียนรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์  ตึกแดงสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2436 พร้อมกับคุกขี้ไก่ ลักษณะเป็นตึกชั้นเดียว สีแดง หลังคามุงกระเบื้อง สร้างด้วยอิฐถือปูน กว้าง 7 เมตร ยาว 32 เมตร เดิมทาสีแดง จึงเรียกว่า “ตึกแดง” ภายในแบ่งออกเป็น 5 ห้องมีประตูเปิดถึงกันหมด มีระเบียงทั้งสองข้างตามแนวยาว  เป็นอาคารที่ฝรั่งเศสสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2436 หรือ ร.ศ. 112 ในบริเวณป้อมพิฆาตข้าศึก โดยรื้ออิฐจากป้อมมาสร้าง เพื่อใช้ตึกนี้เป็นกองรักษาการณ์ และที่พักของทหารที่ รักษาปากน้ำแหลมสิงห์ ในครั้งนั้นกลักษณ์เฉพาะตัว
  • รับประทานอาหารกลางวัน….
  • เดินทางไปอาสนวิหาร พระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล  เป็นอาสนวิหารประจำมิสซังโรมันคาทอลิกจันทบุรี ตั้งอยู่บริเวณริมคลองจันทบุรี ตรงข้ามชุมชนเก่าแก่จันทบูร บรรยากาศคลาสสิก  โบสถ์คาทอลิกจันทบุรี หรือ อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล เป็นโบสถ์คริสต์คาทอลิกเก่าแก่ที่มีความสวยงามมาก ถือว่าเป็น Unseen แห่งหนึ่งของเมืองจันทบุรีเลย ที่ตั้งของโบสถ์นี้อยู่ในตัวเมืองจันทบุรี บริเวณชุมชนริมน้ำจันทบูร
  • เยี่ยมชมย่านชุมชนโบราณ ชุมชนริมน้ำจันทบูร ที่นี่เป็นชุมชนเก่าแก่ของชาวจีนและญวน  แต่เดิมรู้จักกันในชื่อที่เรียกกันติดปากว่า “บ้านลุ่ม” ซึ่งเป็นชุมชน เก่าแก่ของชาวจีนและญวนอพยพตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น  ต่อมาได้พัฒนามาเป็น ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการค้าของ จันทบุรีที่สำคัญแห่งหนึ่งในสมัยรัชกาลที่ 5 ปัจจุบันคือสถานที่ท่องเที่ยว ที่หากใครที่มาเยือนจังหวัด จันทบุรี แล้วไม่ควรพลาด  มีจุดเริ่มต้นจากเชิงสะพานวัดจันทร์ เป็นแนวไปตลอดจนถึงชุมชนตลาดล่าง บริเวณที่เรียกว่าท่าเรือจ้างอาคาร ส่วนใหญ่ เป็นที่พักอาศัย และร้านค้าของชุมชนที่มีอายุเกือบร้อยปี   ซึ่งสร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 มีลักษณะเป็นตึกแถวโบราณลวดลายไม้จำหลักอ่อนช้อย งดงาม
  • เดินทางเข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย
  • รับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหาร……..

 

วันที่ 3
  • รับประทานอาหารที่โรงแรม
  • เดินทางไปยังสวนผลไม้  เที่ยวชมสวนซึ่ง พื้นที่โดยรอบสวนมีความสวยงาม ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ รายล้อมไปด้วยขุนเขา บรรยากาศแบบบ้านในสวน น่านั่งพักผ่อน  มีผลไม้สดจากต้นให้ได้ลิ้มลองหลากหลายชนิด ทั้งทุเรียน, ลองกอง, เงาะ, สละสุมาลี และมังคุด เป็นต้น
  • แวะน้ำตกพลิ้ว  สัมผัสความสวยงามของน้ำตกพลิ้ว เล่นน้ำเย็นๆและเล่น หรือให้อาหารปลาพลวงหิน  นอกจากนั้นสถานที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่สำคัญเนื่องจากรัชกาลที่ 5 ได้เสด็จมาที่นี่ถึง 12 ครั้ง ด้วยตำนานความรักที่ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงมีให้แก่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ทำให้เกิดเป็นเรื่องเล่าสืบกันมาว่า หากคู่รัก คู่ใดได้มากราบไหว้สักการะพีระมิดแห่งรักนี้ จะสมหวังและเป็นความรักที่มั่นคงนั่นเองค่ะ ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาที่ไหนเพื่ออธิษฐานมากมาย รวมไปถึงมาชมความสวยงามของน้ำตกพลิ้ว
  • พักรับประทานอาหารกลางวันและ ซื้อของฝากของที่ระลึก
  • เดินทางกลับจังหวัดเชียงใหม่

 

เงื่อนไข
    • ราคานี้ไม่รวมตั๋วเครื่องบินไป-กลับ
    • ค่าเข้าชมสถานที่สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
  • ราคานี้ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย3% กรณีขอใบกำกับภาษี
  • ราคานี้ไม่รวมค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่ามินิบาร์โรงแรม ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ และบริการอื่นๆ นอกเหนือจากทางบริษัทกำหนด
  • ราคานี้ไม่รวมทิปมัคคุเทศก์และคนขับ
  • อัตราค่าเข้าชมน้ำตกพลิ้ว ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท (อายุต่ำกว่า 4 ขวบ และ 60 ปีขึ้นไป และผู้พิการชาวไทย เข้าชมฟรี) ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
  • ค่ารถรางรับ-ส่ง คนละ 20 บาท
  • ราคานี้ไม่รวมอาหารเย็น

 

ราคานี้รวม
  • ที่พัก 2 คืน
  • อาหาร 3 มื้อ
  • รถยนต์หรือ รถตู้ พร้อมคนขับ
  • มัคคุเทศก์
  • ประกันอุบัติเหตุ

 

หมายเหตุ โปรแกรมสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหาะสม หากเกิดปัญหาเฉพาะหน้า

ลูกค้า 8-13 ท่าน ใช้รถตู้ ราคา 6,490 บาท ต่อท่าน

ลูกค้า 25-35 ท่าน ใช้รถบัส ราคา 5,590 บาท ต่อท่าน

ลูกค้า 36-43 ท่าน  ใช้รถบัส ราคา 4,299 บาท ต่อท่าน